หนังออสการ์ยอดเยี่ยมปีล่าสุดนี้เกือบจะดับและตกลงเหวแล้ว เพราะจะถูกส่งลงเป็นแผ่นก่อนจะลงโรงเสียอีก แต่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมายิ่งกว่าซินเดอเรลล่าหรือตัวละครเทพนิยายใดๆ แถมยังมาแบบเหนือเมฆ เพราะตอนนี้ราคาหนังสูงมากจนประเทศไทยเองเกือบจะไม่นำมาฉายซะแล้ว Slumdog Millionaire (2011)
เนื่องจากมันราคาแพง เป็นหนังอิน(ดี้)เดียที่จำกัดโรงฉาย ไม่คุ้มลงทุน ทั้งยังแนวทางหนังก็ไม่ถูกปากคนไทยนัก
แต่ด้วยกระแสด้านบวกล้นหลามจากปากต่อปาก นักวิจารณ์ และสามารถคว้ารับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากลูกโลกทองคำและออสการ์ Slumdog Millionaire จึงมีโอกาสมาให้คนไทยลิ้มรสจนได้ หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องสั้นที่ตีแผ่สังคมอินเดียผ่านเรื่องราวของจามาล มาริค เด็กหนุ่มวัย 18 หน้าตาฉลาด(น้อย) ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่มีพื้นเพมาจากสลัมมุมไบ แต่กลับพลิกผันได้มาเล่นเกมส์ในรายการ Who Wants To Be A Millionaire (หรือรายการเกมส์เศรษฐีบ้านเรานั่นแหละครับ) จามาลเหลืออีกเพียงหนึ่งคำตอบที่ถูกจากหนึ่งคำถามก็จะคว้าเงินรางวัลสูงสุด 20 ล้านรูปี ด้วยลักษณะและพื้นเพความเป็นมาของเขา ทำให้เพรม Slumdog Millionaire คูมาร์พิธีกรของรายการคิดว่าจามาลโกงเกมส์การแข่งขัน ช่วงพักรายการก่อนถ่ายต่อคำถามสุดท้าย ตำรวจจึงนำตัวเขาไป(ทรมาน)สอบสวนเค้นความจริง
เด็กหนุ่มจากสลัมจึงเล่าเรื่องทุกอย่างในอดีตที่เป็นกุญแจไขสู่คำตอบให้ฟัง ชีวิตความเป็นอยู่ของจามาล สะท้อนภาพลักษณ์ สังคม บ้าน(ป่า)เมือง(เถื่อน)ของเขามาโดยตลอด เช่น ฉากที่แม่จามาลถูกฆ่าตาย เกิดจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างฮินดูและมุสลิม ที่ฝ่ายแรกต้องการไล่ฝ่ายหลังออกนอกประเทศ ซึ่งความไม่ลงรอยนี้ก็สืบเนื่องมานับพันปีเห็นจะได้ หรือฉากที่จามาลกับซาลิมพี่ชายอจมป่วน หนัง slumdog millionaire เต็มเรื่อง และเด็กสาวที่จามาลรัก ลาติกาต้องตกอยู่ในเงื่อมมือแก๊งจับเด็กไปขอทาน
อย่างที่รู้ๆกันดีว่า อินเดียติดอับดับประเทศที่มีขอทานเยอะสุดของโลก หรือกระทั่งพฤติกรรมการดูถูกของพิธีกรรายการต่อจามาลก็ดูช่างไม่ต่างกับการแบ่งชนชั้นวรรณะในสังคมอินเดีย เป็นต้น แต่ความหนักอึ้งของเรื่องกลับไม่ได้ทำให้หนังดูตึงเครียดเกินไป หนังผ่อนคลายด้วยการแทรกมุขตลก และความตื่นเต้นอยู่เสมอ จนลืมไปว่าความรันทด ยากจนข้นแค้นแสนลำบากลำบนของจามาลมันหนักหนาสาหัสเอาเรื่องทีเดียว
Post a Comment